......จากบันทึกบนบรรทัดประวัติศาสตร์
เราสามารถย้อนมองเห็นช่องว่าง
ความเปลี่ยนแปรเป็นไปไร้กรอบวาง
จึงระหว่างวิวัฒน์วิบัติเบียน
......โดยพื้นฐานคนไทยไม่ยึดหลัก
แต่ชอบจักคอยตะแบงดัดแปลง
เปลี่ยนกี่แผนบทกำหนดแน่วแนวจำเนียร
ผลผิดเพี้ยนเพราะผู้นอกลู่ทาง
......ต้องมีคนกวดขันหมั่นกำกับ
คอยบังคับบัญชาอย่าเว้นว่าง
หากโอนอ่อนผ่อนปรนผลอับปาง
อย่าเหินห่างเผลอให้อยู่ไกลตา
......เพราะทำได้ตามใจคือไทยแท้
คำเก่าแก่ที่นับวันสร้างปัญหา
คนในชาติขาดวินัยแต่ไรมา
จนลูบหน้าปะจมูกไม่ถูกควร
......บ้างไม่ยอมหยิกเล็บกลัวเจ็บเนื้อ
น้ำพึ่งเรือเสือพึ่งป่าพาผันผวน
แถมผักชีโรยหน้ามาเป็นพรวน
ลืมทบทวนผิดถูกปลูกฝังกัน
......ยลเยี่ยงศรีธนญชัยใช้ประพฤติ
กลับหลงยึดเอาอย่างไม่สร้างสรรค์
บางคนเปลี่ยนจุดหมายเป็นรายวัน
เห่อแฟชั่นตามกระแสปรวนแปรนัก
......หลังวัตถุนิยมผูกปมเงื่อน
ยิ่งบิดเบือนสังคมจนจมปลัก
ศีลธรรมรำไรไร้รูปลักษณ์
ก็ถูกผลักเสือกไส"..จากใจคน.."
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น